วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2557

นานา อาชีพ ตอน ดอกพุด โฮม นค


ดอกพุดแก้ว

 

  • ชื่อวิทยาศาสตร์

Murraya paniculata (L.) Jack.

  • ชื่อวงศ์

 RUTACEAE

  • ชื่อสามัญ


  Orang Jessamine, China Box Tree, Andaman Satinwood, Chinese Box-wood

  • ชื่อพื้นเมือง


 แก้ว, แก้วขาว (ภาคกลาง), แก้วขี้ไก่ (ยะลา), แก้วพริก, ตะไหลแก้ว (ภาคเหนือ)

  • ลักษณะทั่วไป


ต้น  พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก สูงได้ถึง 10 ม. เรือนยอดเป็นพุ่มกลมทึบ สีเขียวเข้ม เปลือกต้น สีขาว เทา แตกเป็นร่องตามยาว
ใบ  ประกอบแบบขนนกปลายคี่ เรียงสลับ มีใบย่อย 5-9 ใบ เรียงสลับกันจากเล็กไปหาใหญ่ สีเขียวเข้มเป็นมัน ใบย่อยที่ปลายก้านใบรูปไข่ รูปรี หรือรูปไข่กลับ ปลายแหลม โคนแหลมหรือสอบ ขอบเป็นคลื่นหรือหยักมนตื้นๆ โคนใบเบี้ยวเล็กน้อย ใบมีต่อมน้ำมัน
ดอก  ช่อดอกสั้น ออกตามง่ามใบ ดอกสีขาว กลิ่นหอม   กลีบเลี้ยง 5 กลีบ   กลีบเลี้ยง ขนาดเล็ก ปลายมน กลีบดอกรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับ ยาวประมาณ1.2 ซม. เรียงซ้อนเหลื่อม ฐานรองดอกรูปวงแหวน เกสรเพศผู้ 10 อัน ยาวไม่เท่ากัน ยาวประมาณกึ่งหนึ่งของกลีบดอก ก้านเกสรเพศผู้แบน รังไข่ติดเหนือวงกลีบ ก้านเกสรเพศเมียหนา ยาวประมาณ 0.7 ซม. ยอดเกสรรูปโล่ห์ ร่วงง่าย ดอกบานเต็มที่กว้าง 2-2.5 เซนติเมตร
ฝัก/ผล  รูปรีหรือรูปไข่ กว้าง 5-8 มม. ยาวประมาณ 1 ซม. ผลแก่สีแดงอมส้ม ต่อมน้ำมันเห็นได้ชัด
เมล็ด  รูปไข่ มีขนหนาและเหนียวหุ้มโดยรอบเมล็ด

  • ฤดูกาลออกดอก

 ตลอดปี โดยเฉพาะฤดูฝน

  • การขยายพันธุ์

 เพาะเมล็ด, ตอนกิ่ง

  • ส่วนที่มีกลิ่นหอม

ดอก

  • การใช้ประโยชน์

    -    ไม้ประดับ
    -    สมุนไพร
    -    เนื้อไม้มีลายมันสวยงาม มีน้ำมันในเนื้อไม้ นิยมใช้ทำเครื่องตกแต่งในบ้าน ด้ามเครื่องมือ ด้ามปากกา เครื่องดนตรี ได้แก่ ซอด้วง ซออู้

  • ถิ่นกำเนิด

  จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี, อินเดีย และภูมิภาคอินโดจีน

  • แหล่งที่พบ

 ทุกภูมิภาค

  • สรรพคุณทางยา

    -    ใบ ใช้ปรุงเป็นยาขับระดู และยาระบายลมแก้จุกเสียดแน่นเฟ้อ

  • การเป็นมงคล

คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นพุดไว้ประจำบ้านจะทำให้มีความเจริญ ความมั่นคง เพราะพุด หรือ พุฒ หมายถึงความเข็งแรง สมบูรณ์ คือความเจริญมั่นคง นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกว่า จะทำให้เกิดบริสุทธิ์ เพราะดอกพุดมีสีขาวสดใสกลับมีดอกใหญ่ที่ขาวสะอาดดังนั้น แง่หนึ่งเช่นกันทั้งนี้ก็เพราะโบราณเชื่อว่าเนื้อไม้ของพุดเป็นไม้ที่แข็งแกร่งและมีอิทธิฤทธิ์พอสมควร

  • การปลูกดอกแก้ว

         ทราบกันหรือเปล่าว่า ดอกแก้ว เป็นดอกไม้ที่สวยชนิดหนึ่งนะค่ะ  แล้วยังมีกลิ่นที่หอมด้วยนะค่ะ แล้วถ้าใครอยาก ปลูก ต้อดอกแก้วนั้นนะค่ะ  ไม่ใช่เรื่องอยากอีกต่อไปแล้วค่ะ  เพราะวันนี้ ความรู้ทั่วไป ได้นำเอาวิธีการปลูกต้น  ดอกไม้  มาฝากเพื่อน ๆ กันด้วยนะค่ะ
-โบราณเชื่อกันว่า  การที่เราปลูกต้นแก้วในบ้าน  แล้วถ้าบ้านใดไว้ประจำบ้านจะทำให้เป็นคนที่มีจิตใจบริสุทธิ์นะค่ะ   และยังทำให้มีความเบิกบานอีกด้วยนะ   เพราะแก้ว  คือ  ความใสสะอาด  ความสดใส  นอกจากนี้ดอกแก้วยังมีสีขาวสะอาดกลิ่นหอมอบอวล  ทั้งยังสามารถนำดอกแก้วไปใช้ในพิธีบูชาพระในพิธีทางศาสนาได้   ถือเป็นสิริมงคลยิ่ง  วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์   จึงนำวิธีการปลูกต้นแก้วมาแนะนำค่ะ  ยังมีกลิ่นที่หอมอีกด้วยนะค่ะ
-การเป็นสิริมงคล   การที่บ้านใดได้ปลูกดอกแก้วนั้นนะ ค่ะ จะมีความเป็นสิริมงคลลแก่บ้านและผู้อาศัยอยู่ด้วยนะค่ะ   และก็ควรปลูกต้นแก้วไว้ทางทิศตะวันออก   หรือผู้ปลูกควรปลูกในวันพุธ   เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เอาประโยชน์ทั่วไปทางดอกให้ปลูกในวันพุธนั้น จะดีค่ะ
-การปลูกดอกแก้ว   ต้นดอกแก้วนะค่ะ  สำหรับการปลูกในแปลง   เพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน  คนไทยโบราณนิยมปลูกไว้เพื่อเป็นแนวรั้วบ้านค่ะ  ขนาดหลุมปลูก 30 x 30 เซนติเมตร  ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 2 ผสมดินปลูก  การปลูกแบบนี้ก็จะสามารถปลูกเป็นกลุ่มหรือเป็นแถวได้นะค่ะ  และสามารถตัดแต่งทรงพุ่มได้ตามความต้องการของเราด้วยนะค่ะ
-การปลูกในกระถางนั้น  การที่เราปลูกดอกแก้วในกระถางนั้นนะค่ะ  เพื่อในการประดับภายนอกอาคาร  เราควรใช้กระถางทรงสูงขนาด 12 – 16 นิ้ว  ใช้ปุ๋ยคอก  หรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 1 ผสมดินปลูก แนะควรเปลี่ยนกระถาง 1 – 2 ปี/ ครั้ง หรือตามความเหมาะสมของการเจริญเติบโตของทรงพุ่มนะ  และก็เพราะการขยายตัวของรากแน่นเกินไปด้วยนะค่ะ
-ดูแลรักษาต้นแก้ว   แล้วต้นแก้วนะค่ะ  เป็นต้นแก้วที่ต้องการแสงแดดจัด  และควรรดน้ำอย่างน้อย 3 – 5 วัน/ครั้ง  ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1 – 2 กิโลกรัม/ต้น ใส่ปีละ 4 – 6 ครั้ง  หรือใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์  สูตร 15-15-15 อัตรา 200- 300 กรัม/ต้น ใส่ปีละ 4 – 6 ครั้งได้นะค่ะ

  • ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูก

เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นพุดไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ผู้ปลูกควรปลูกในวันเสาร์ ถ้าจะให้เป็นสิริมงคลแก่ตัวเองผู้ปลูกควรเป็นสภาพบุรุษเพราะซื่อพุดเป็นชื่อที่เหมาะสมสำหรับสุภาพบุรุษ นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกว่า แก่นไม้ พุดมีลักษณะที่แข็งแกร่งจึงเปรียบเทียบความแข็งแรงเหมือนกับสุภาพบุรุษ

  • การขยายพันธุ์         

การเพาะเมล็ด

  • การดูแลรักษา

แสง     ต้องการแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง
น้ำ       ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 5-7 วัน/ครั้ง
ดิน       ชอบดินร่วนซุย
ปุ๋ย       ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 2 -.3 กิโลกรัม / ต้น ควรใส่อย่างน้อยปีละ 2 -                                    3 ครั้ง หรือใช้ปุ๋ยเคมีสูตร  15-15-15 อัตรา 200-300 กรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 
           3-4 ครั้งโรคและศัตรูไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคและศัตรู เพราะเป็นไม้ที่ทนทานต่อ                              สภาพธรรมชาติได้ดีแมลงเพลี้ยหอย
อาการ   ใบสีเหลือง จะเห็นกลุ่มเพลี้ยสีขาวเกาะอยู่ตามซอกใบ หรือโคนใบ จะทำให้ใบเหี่ยวร่วงในต่อ               มาการป้องกันรักษาความสะอาดบริเวณแปลงปลูก กำจัดมดที่เป็นพาหะแพร่ระบาดด้วยยาเช่น             เดียวกับการกำจัดการกำจัดใช้ยาไซกอน, ไดอาชินอน อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก 

  • วิธีการปลูก

 สำหรับการปลูกในแปลง เพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน คนไทยโบราณนิยมปลูกไว้เพื่อเป็นแนวรั้วบ้าน ขนาดหลุมปลูก 30 x 30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 2  ผสมดินปลูก การปลูกแบบนี้สามารถปลูกเป็นกลุ่มหรือเป็นแถวได้ และสามารถตัดแต่งทรงพุ่มได้ตามความต้องการ

  • รวมรูปภาพดอกพุดแก้ว






  • ที่มา


- https://www.google.co.th/search?q=วิธีการปลูก+ดอกพุดแก้ว
- http://www.youtube.com/watch?v=GsXHh54lPXw
- http://www.youtube.com/watch?v=b5xz6F5_vHk
- http://www.nanagarden.comhttp://th.wikipedia.org/wikihttp://www.nanagarden.com
- http://www.biogang.net/biodiversity_view.php?menu=biodiversity&uid=9516&id=104186
- http://biogang.net/upload_img/biodiversity/biodiversity-115287-2.jpg
nanagarden.com